วันอาทิตย์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

นิทานเรื่อง เด็กชายสมบัติกับครูทรงกลด

by ผู้กองปูเค็ม on Friday, May 25, 2012 at 6:33pm ·

วันนี้อารมณ์ดี เลยอยากเล่านิทานเรื่อง เด็กชายสมบัติกับครูทรงกลด

ดช.สมบัติเป็นเด็กบางกอก มีปมด้อยเนื่องจากเจี้ยวเล็กแถมคดอีกต่างหาก ถูกเพื่อนแกล้งตั้งแต่เด็ก เพราะตัวเล็ก สายตาสั้นจุ๊ดจู๋..

ดช.สมบัติ มุมานะพากเพียร ตั้งใจเรียนถามโน่น ถามนี่ จนเพื่อนๆสงสัย.."มึงจะไม่ให้กูถามมั่งเลยรึไง"..

วันหนึ่งครูทรงกลด เป็นครูหนุ่มหล่อ เพิ่งย้ายมาจากพิษณุโลก มาสอนที่โรงเรียน วิชาสังคม บังเอิญเหลือเกินได้เป็นครูประจำชั้น ดช.สมบัติ..

"นักเรียนตรง"..เสียงหัวหน้าห้องตะโกนลั่นให้นักเรียนลุกขึ้นยืนทำความเคารพ..เด็กนักเรียนทุกคนลุกขึ้นยืน ยกเว้นดช.สมบัติ..

ครู ทรงกลดขยับแว่น มองไปยังดช.สมบัติ พบว่ากำลังอ่านหนังสือ "เผด็จการ..ฮิตเล่อร์" อย่างตั้งใจ..อะแฮ่ม..ครูทรงกลดกระแอมไอเสียงดังเพื่อเตือน..

ดช.สมบติสะดุ้ง หันไปมองรอบตัวเห็นเพื่อนลุกขึ้นยืนทำความเคารพกันหมดแล้ว..จึงค่อยๆเลื้อย ลุกขึ้นยืนตามเพื่อน..ทำท่าเอียงอายน่ารักน่าชัง

"ครู ครับ..ทำไมนักเรียนต้องทำความเคารพครูด้วยล่ะครับ..เราทุกคนมีสิทธิเสรีภาพ เท่ากันไม่ใช่เหรอครับ" ดช.สมบัติเอียงคอถามครูอย่างไร้เดียงสา..

Ruj Krongbhumin ‏@RujTH
@pookem 19:45 ดูในจอเสื้อแดง ฝนตกหนัก โอ๊ยน้ำตาไหล ดีใจ ตกนานๆนะครับคุณฝน
 Retweeted by ทรงกลด

ครูทรงกลดได้ยินอย่างนั้น ก็สงสัยและสนใจในตัวดช.สมบัติ เพราะไม่เคยมีเด็กคนไหนถามอย่างนี้มาก่อน..ระหว่างที่กำลังนึกคำอธิบาย ฝนก็ตกลงมาห่าใหญ่

นี่ไงล่ะ..ผลของการที่ดช.สมบัติไม่ทำความเคารพครู..ฝนฟ้าคะนอง ธรรมชาติลงโทษ..คนนับหมื่นต้องตากฝนเพราะเธอนะ..ครูทรงกลดด่าตามน้ำ..

นี่..เธอ..ดช.สมบัติ..ทำไมเราต้องเคารพพ่อแม่ รู้มั้ย..รึว่าเธอไม่เคารพพ่อแม่..? ..ดช.สมบัติ..ครุ่นคิดประโยคคำถามที่ครูทรงกลดป้อนให้..

"เพราะพ่อแม่ให้เงินผมมาโรงเรียนครับ"..เด็กน้อยตอบคำถามครูทรงกลด ไร้มารยา..นั่นสิ..สงสัยครูจะถามคำถามยากไปมั้ง ?

ดช.สมบัติ..เธอ รู้มั้ยว่าใครป้อนนมให้ดื่มกิน ใครสอนให้เดิน ใครพาไปเที่ยว ใครให้ขี่คอ..เด็กน้อยตอบเสียงดัง ฉะฉาน.."พ่อกับแม่..ครับ"

"เธอ รู้มั้ยว่า ความรักมีกี่ระดับ" ครูทรงกลดยิงคำถามยากๆ ให้ดช.สมบัติตอบ..เด็กน้อยยืนนิ่งขบคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก..ครูทรงกลดจึง เฉลย..

ความรักมี 4 ระดับ คือรักตัวเอง รักครอบครัว รักสังคม และสูงสุดคือรักประเทศชาติ..ดช.สมบัติพยักหน้าพยายามทำความเข้าใจ..

"เธอ รู้มั้ยว่า..ทำไมเราต้องรักตัวเอง.." ครูทรงกลด ยิงคำถามรัวเป็นชุด เพื่อให้ดช.สมบัติ จอมแก่นตอบ.."เพราะเรารักตัวเองเท่ากับรักพ่อแม่ด้วย"

"อืมม..ลึกซึ้ง..ไม่คิดว่าเด็กน้อยจะตอบได้ฉะฉานขนาดนี้" ครูทรงกลดชื่นชมนักเรียน นี่คืออนาคตของชาติโดยแท้..

"แล้วความรักพ่อแม่ล่ะ..คืออะไรและต้องทำอะไร.." ครูทรงกลดไม่ยอมให้เกิดช่องว่าง..รัวคำถามไปยังดช.สมบัติ..

"รัก พ่อรักแม่รักครอบครัว จะทำให้สังคมมีความสงบ เรียบร้อยครับ" เออ..มันเข้าใจตอบแฮะ ความรักแต่ละระดับของเด็กน้อย เพื่อความรักชั้นถัดไป..

"แล้ว..ความรักสังคมล่ะ คืออะไร" เด็กน้อยปราดเปรื่องกำลังครุ่นคิดแล้วตอบครูทรงกลดอย่างฉะฉานว่า.."เพราะ เมื่อสังคมร่มเย็น ประเทศชาติก็เจริญ"

ครูทรงกลด สุดปลื้มกับลูกศิษย์ตัวน้อยหำเล็กอย่างดช.สมบัติ..ที่ตอบได้โดนใจ..ระหว่าง ที่กำลังหลงไหลได้ปลื้ม..ดช.สมบัติก็ยิงคำถามมายังครูบ้าง..

"ครู ครับ..แล้วทำไมเราต้องรักประเทศชาติด้วยล่ะครับ.." ...เด็กน้อยตั้งคำถามด้วยความไร้เดียงสา..ครูทรงกลด พลิกตำราวิชารัก...พลางตอบไปว่า..

"ความรักประเทศชาติ คือความรักของทุกระดับของทุกคน ทุกครอบครัว ทุกสังคมหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว" ครูทรงกลดอธิบายพลางมองตาเด็กน้อย.แล้วเสริมว่า

ประเทศชาติ ของเราประกอบไปด้วยชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ จะมีใครมาแบ่งแยกมิได้" ครูทรงกลดอธิบาย สายตาก็จ้องมองไปยังพระบรมฉายาลักษณ์

ทุกประเทศต้องมีประมุข และประเทศของเราก็มีกษัตริย์เป็นประมุขมาช้านานแล้ว..สถาบันกษัตริย์จึงอยู่ คู่กับสังคมไทยมาตั้งแต่ประวัติศาสตร์..

เด็กน้อยครุ่นคิดทำความเข้าใจ..ครุทรงกลดเลยเสริมต่อว่า.."รู้มัยว่า..คลองชลประทาน นั้นมีที่มายังไง"..

"ไม่ทราบครับ" เด็กน้อยตอบอย่างรวดเร็ว."สมัยก่อนกษัตริย์เป็นจอมทัพนำทัพสู้ศึกป้องกัน ประเทศจากศัตรูที่รุกราน เมื่อเสร็จศึกท่านก็มาช่วยประชาชน"

"แล้วกษัตริย์ท่านช่วยประชาชนยังไงครับ" เด็กน้อยถามด้วยอยากรู้.."คลองชลประทานเป็นตัวอย่างหนึ่งที่กษัตริย์ช่วย ประชาชนไงล่ะ" ครูทรงกลดตอบ..

"เธอเคยเห็นภาพถ่าย ที่กษัตริย์ไทยเดินทางไปทั่วประเทศ เหงื่อไหลไคลย้อย ตรากตรำ ทำงาน เพื่อสร้างคลองชลประทานให้ประชาชนมั้ย ?" เด็กน้อยพยักหน้า

"ก่อนหน้า นี้หมู่บ้านของเราไม่มีคลองชลประทาน จะปลูกข้าวทำนาก็ต้องรอฝน หากปีไหนฝนแล้งก็ไม่ได้ทำนาใช่มั้ย.." ดช.สมบัติพยักหน้าอีกเช่นเคย..

"ชาวนาไม่ได้ทำนา ก็ไม่มีเงินส่งให้ลูกเรียน ไม่มีเงินซื้อกับข้าว ราชินีจึงส่งเสริมด้านศิลปาชีพไงล่ะ..เธอเคยเห็นภาพถ่ายแบบนี้มั้ย ดช.สมบัติ"

เด็กน้อยรำลึกถึงความทรงจำ..ที่มีต่อกษัตริย์และ ราชินี..ทั้งสองพระองค์เหน็ดเหนื่อยตรากตรำเพื่อความกินดีอยู่ดีของประชาชน มานานแล้ว..

ดช.สมบัติ..เธอรู้มั้ยว่า "กษัตริย์สอนประชาชนถึงวิธีตกปลา แต่นักการเมืองจะมอบปลาให้กับประชาชน..ความแตกต่างอยู่ที่ไหนกัน"

"การมอบปลาให้ประชาชนนั้น ไม่ใช่การสอน แต่เป็นการให้ปลา หากไม่มีนักการเมืองให้ปลา ประชาชนก็จะอดตายครับ" ครูทรงกลดปลื้มกับศิษย์รัก...

"แต่การสอนถึงวิธีจับปลานั้น เป็นการให้ความรู้ประชาชนถึงการประกอบอาชีพ ต้องรู้จักคิดหาวิธีจับปลา เป็นการแก้ปัญหาความยากจนอย่างถาวรครับ"..

เด็กน้อยช่างคิด ช่างเจรจา พูดยังกับต่อยหอย..คลื่นลูกใหม่ย่อมแรงกว่าคลื่นลูกเก่า..ประเทศของเราจะต้องรอดพ้นปากเหยี่ยวปากกาแน่ๆ

"แต่ครูครับ..ที่หน้าบ้านของผม เขาปลดรูปกษัตริย์ออกแล้วแขวนรูปนักการเมืองแทนแล้วครับ" เด็กน้อยใสซื่อ..ฟ้องครูทรงกลด..

"เธอรู้มั้ยว่า ประเทศของเรากว้างใหญ่ไพศาลแค่ไหน..กษัตริย์ตรากตรำทำงานเพื่อประชาชนมานานแล้วถึง 60 ปี เพื่อแก้ปัญหาความยากจน" เด็กน้อยรับรู้..

"แล้วทำไมชาวบ้านหน้าบ้านผม เขาถึงรักนักการเมืองมากกว่ากษัตริย์ล่ะครับ" เด็กน้อยรัวคำถามถึงครูทรงกลด..

"ก็เพราะนักการเมืองให้ปลาไงล่ะ นโยบายประชานิยมทำให้ประชาชนรอคอยความหวังจากนักการเมือง ประชาชนบางคนที่คิดไม่ออกจึงหลงรักนักการเมือง"

"เธอเห็นมั้ย ว่า การให้ปลานั้น ง่ายกว่าการสอนวิธีตกปลามากมายนัก ไม่ต้องเสียเวลา แถมได้ส่วนแบ่งจากการขายซื้อปลามาแจกประชาชนอีกด้วย.."

"เธอเคยอ่าน พระมหาชนก มั้ย..ที่กษัตริย์สอนให้ประชาชนรู้จักความอดทน ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคขวากหนาม..แม้ไม่เห็นฝั่งก็ต้องว่ายน้ำต่อไป.."

ดช.สมบัติ ซาบซึ้งกับคำสอนของครูทรงกลด "ผมจะไม่ยอมตกเป็นเครื่องมือสู่อำนาจของนักการเมืองครับ" "ผมจะตกปลาเองครับ" ครูทรงกลดยิ้มรับ..

ครูทรงกลดเหม่อมองไป นอกหน้าต่างห้องเรียน..ทุ่งนากว้างใหญ่เขียวชอุ่ม ฝนตกพรำๆ อย่างนี้ชาวบ้านคงดีใจ นาข้าวของพวกเขากำลังโดวันโตคืน..

ครูทรงกลด คิดถึงกษัตริย์ที่ชราภาพมากแล้ว ท่านทรงตรากตรำทำงานเพื่อประชาชนมาตลอด ทุกที่ที่มีความยากจนท่านจะปรากฏกายที่นั่น เพื่อช่วยประชาชน

วันนี้กษัตริย์ถูกนักการเมืองหมิ่นพระเกียรติยศ ครูทรงกลดไม่รู้จะทำอย่างไร ทำได้แต่เพียงให้ความรู้กับคนรอบข้าง หวังว่าเขาเหล่านั้นจะเข้าใจ..

สายฝนโปรยปรายกระทบหลังคา เสียงดังเปาะแปะ ท่วงทำนองลูกทุ่งบ้านนอก เย็นชื่นใจ เสียงกบร้องขานรับกันเป็นทอดๆ ไกลออกไปสุดลูกหูลูกตา..

วันนี้หากไม่มีคลองชลประทาน ที่กษัตริย์มีโครงการพระราชดำริ หมู่บ้านของเราคงต้องลำบาก ผู้คนจะต้องมุ่งหน้าเข้ากรุง ขายแรงงาน..

คลองชลประทานเกิดขึ้นทั่วประเทศ เป็นเครือข่ายคลองส่งน้ำที่ทรงประสิทธิภาพ หล่อเลี้ยงประชาชนด้วยวิชาชีพเกษตรกรรม

เศรษฐกิจ โลกกำลังหวั่นไหว ถูกท้าทายด้วยโจทก์ยากๆ ที่นักการเมืองข้ามชาติสร้างเงื่อนไขให้กับชาวโลก..กษัตริย์ไทยจึงคิด ทฤษฎี.."เศรษฐกิจพอเพียง"

น่าอนาถนัก นักการเมืองบางคนหมิ่นกษัตริย์ เนื่องด้วยขัดผลประโยชน์..วันนี้พระองค์ท่านจึงไม่มีรอยยิ้ม..ไม่มีใครรู้ ว่าพระองค์ทุกข์เพียงใด..

ความยากจน ข้นแค้นกำลังเกิดขึ้นไปทุกหย่อมหญ้า ข้าวของราคาแพง ประชาชนกำลังตกที่นั่งลำบาก..จะมีวิธีใดบ้างนะ..ที่จะช่วยให้คนเหล่านั้นได้ สำนึก

2 ความคิดเห็น:

Apple กล่าวว่า...

ลึกซึ้ง ตรึงใจค่ะ

Hhh กล่าวว่า...

ล้ำลึกแต่ง่ายแก่การเข้าใจ